กาเบรียล เชซุส หายเจ็บกลับมาซ้อมในสนามหญ้า

Browse By

กาเบรียล เชซุส กองหน้าทีมชาติบราซิลของอาร์เซน่อล กลายเป็นข่าวดีครั้งใหญ่ของสาวก “เดอะ กันเนอร์ส” หลังจากมีรายงานยืนยันว่าเขากลับมาลงซ้อมในสนามหญ้าได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ได้รับบาดเจ็บเรื้อรังบริเวณกล้ามเนื้อ ทำให้บรรยากาศรอบสโมสรกลับมาคึกคักทันที เพราะเชซุสถือเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อระบบเกมรุกของ มิเกล อาร์เตต้า และการที่เขากลับมาซ้อมได้ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของฤดูกาลอาจกลายเป็นปัจจัยตัดสินลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกที่กำลังดุเดือดอย่างมาก

ซึ่งแฟนบอลจำนวนไม่น้อยต่างติดตามอัปเดตผ่านช่องทางข่าว รวมถึงการวิเคราะห์สถานการณ์ในมุมของ เล่นคาสิโนออนไลน์กับ ยูฟ่าเบท เว็บตรง มั่นคง ปลอดภัย ระบบทันสมัยที่สุด สมัครง่าย ไม่ผ่านเอเย่นต์ พร้อมโปรโมชั่นเด็ดทุกวัน เพื่อตีความโอกาสของอาร์เซน่อลในช่วงต่อจากนี้ว่าพวกเขาจะกลับมามีความเฉียบคมในพื้นที่สุดท้ายแค่ไหนเมื่อหัวหอกคนสำคัญกำลังฟื้นตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เชซุสได้รับบาดเจ็บในเกมทีมชาติบราซิลเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน และความกังวลก็เพิ่มขึ้นอย่างมากหลังจากทีมแพทย์รายงานว่าเขาต้องใช้เวลาในการพักรักษาตัวยาวกว่าเดิม เนื่องจากอาการบริเวณเอ็นกล้ามเนื้อจำเป็นต้องพักฟื้นหลายช่วงจังหวะเพื่อป้องกันการบาดเจ็บซ้ำ สถานการณ์นี้ทำให้อาร์เตต้าต้องปรับระบบการเล่นหลายครั้ง โดยเฉพาะการหมุนเวียนตำแหน่งในแดนหน้า ไม่ว่าจะเป็นการดึง เลอันโดร ทรอสซาร์ ลงมาเป็นฟอลส์ไนน์ หรือการโยก ไค ฮาแวร์ตซ์ ขึ้นไปยืนกองหน้าเพื่อเน้นความยืดหยุ่นในการเข้าทำ ซึ่งแม้ระบบจะเดินหน้าได้ระดับหนึ่ง แต่ทุกคนต่างยอมรับว่าความเฉียบคม ความเร็วในการเชื่อมเกม และความดุดันจากสไตล์ของเชซุส คือสิ่งที่ขาดหายไปอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในเกมใหญ่ที่ต้องการความแตกต่างเพียงเสี้ยววินาที

การได้เชซุสกลับมาซ้อมบนสนามหญ้า แม้ยังเป็นการซ้อมเบา ๆ แต่ก็ถือเป็นสัญญาณสำคัญว่าร่างกายของเขากำลังตอบสนองได้ดี และอาจพร้อมกลับมาลงสนามในเร็ววันนี้ ข้อมูลจากสื่ออังกฤษระบุว่าอาร์เซน่อลได้วางโปรแกรมฟื้นฟูร่างกายอย่างละเอียด โดยแบ่งเป็นสามระยะ คือ ฟื้นฟูความแข็งแรง, ทดสอบการเคลื่อนไหวในระดับแข่งขัน และเข้าสู่การซ้อมเต็มรูปแบบกับทีมชุดใหญ่ ซึ่งการกลับมาซ้อมในสนามหญ้าเท่ากับว่าเขากำลังเข้าสู่ช่วงท้ายของการฟื้นฟู และอาจกลับมาช่วยทีมได้ภายในไม่กี่สัปดาห์ หากไม่มีอาการเจ็บกำเริบเพิ่มเติม

อาร์เตต้ามักพูดเสมอว่าความสามารถของเชซุสไม่ได้จำกัดอยู่เพียงการยิงประตู แต่รวมไปถึงการเคลื่อนที่ที่เก่งกาจ การไล่บีบพื้นที่ตั้งแต่แดนหน้า และการสร้างพื้นที่ให้เพื่อนร่วมทีม ซึ่งสไตล์ดังกล่าวถือเป็นหัวใจของระบบเพรสซิ่ง และเป็นเหตุผลสำคัญที่อาร์เซน่อลทำเกมรุกได้ลื่นไหลตลอดสองฤดูกาลที่ผ่านมา การที่เขาหายไปทำให้ทีมต้องปรับบาลานซ์ใหม่ทั้งหมด เพราะไม่มีใครสามารถทดแทนความหลากหลายทางแท็กติกของเชซุสได้ 100% แม้ ฮาแวร์ตซ์ หรือ ทรอสซาร์ จะมีจุดเด่นในแบบของตัวเองก็ตาม แต่ไม่มีใครสามารถผสมผสานการขยับหาพื้นที่ การลากจี้ทะลุช่อง และการทำเกมร่วมกับปีกได้ดีเท่าหัวหอกบราซิเลียนรายนี้

อีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจคือการกลับมาของเชซุสอาจช่วยปลดล็อกฟอร์มของแนวรุกคนอื่น ๆ ได้มากขึ้น ผู้เล่นอย่าง บูกาโย่ ซาก้า หรือ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ต่างทำผลงานได้ดีอยู่แล้ว แต่ในบางเกมพวกเขาดูเหมือนขาดตัวประสานงานที่สามารถดึงกองหลังคู่แข่งออกจากตำแหน่ง ทำให้พื้นที่ในการกระชากหรือเลี้ยงกินตัวน้อยลง ซึ่งเชซุสเป็นผู้เล่นที่สามารถสร้างพื้นที่ให้เพื่อนร่วมทีมได้อย่างยอดเยี่ยม อีกทั้งยังสามารถดึงตัวประกบออกไปเปิดโอกาสให้ซาก้าและมาร์ติเนลลี่เล่นงานคู่แข่งได้ง่ายขึ้น ดังนั้นหากเขากลับมาฟิตเต็มร้อย น่าจะทำให้เกมริมเส้นของอาร์เซน่อลกลับมาน่ากลัวกว่าเดิมอย่างมาก

สถานการณ์ของอาร์เซน่อลในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ยังต้องแข่งกับทีมลุ้นแชมป์อย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ลิเวอร์พูล และท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ซึ่งแต่ละทีมต่างมีความเสถียรของขุมกำลังในระดับสูง การได้ผู้เล่นสำคัญกลับมาสู่ทีมในช่วงโค้งสำคัญจึงเป็นเรื่องใหญ่ที่สามารถเปลี่ยนแปลงอันดับบนตารางได้อย่างแท้จริง และนี่คือเหตุผลที่แฟนบอลจำนวนมากให้ความสำคัญกับความคืบหน้าการฟื้นตัวของเชซุสอย่างมาก โดยสื่อบางแห่งถึงกับออกบทวิเคราะห์ว่าหากเชซุสกลับมาทันท่วงที อาร์เซน่อลจะกลับมามีโอกาสในการเล่นเกมรุกแบบหลากหลายอีกครั้ง ซึ่งส่งผลดีโดยตรงต่อความต่อเนื่องของผลงาน โดยเฉพาะเกมที่ต้องการความเด็ดขาดในกรอบเขตโทษ ซึ่งถือว่าเป็นจุดที่ทีมยังมีปัญหาอยู่บ่อยครั้ง แต่ด้วยสไตล์ดุดันของเชซุส อาจกลายเป็นตัวแก้ปัญหาที่ทีมต้องการมาตลอด

แฟนบอลบางส่วนยังมองว่านี่อาจเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับเชซุสในการกลับมาทำผลงาน เพราะในช่วงที่เขาบาดเจ็บนั้น เกิดกระแสวิจารณ์ในหมู่สื่อถึงจำนวนประตูที่เขายิงได้น้อยเกินไปเมื่อเทียบกับโอกาสที่ได้รับ แม้หลายคนเข้าใจว่าหน้าที่ของเขาไม่ได้จำกัดเพียงการยิงประตู แต่ในพรีเมียร์ลีกซึ่งเป็นลีกที่ต้องการกองหน้าที่เฉียบคม การทำประตูได้มากย่อมมีความหมายต่อการลุ้นแชมป์ ดังนั้นการกลับมาครั้งนี้จึงอาจเป็นโอกาสอันดีของเชซุสที่จะพิสูจน์ว่าเขายังเป็นหัวใจในแดนหน้าที่ทีมต้องการ และเป็นตัวแปรสำคัญที่ช่วยให้เกมรุกมีความชัดเจนและทรงพลังมากขึ้น

การฟื้นตัวของเชซุสยังส่งผลต่อภาพรวมของการวางแผนทีมในตลาดนักเตะอีกด้วย เพราะมีข่าวลือว่าอาร์เซน่อลกำลังมองหากองหน้ารายใหม่ในช่วงตลาดซื้อขายหน้า หากเขากลับมาสมบูรณ์และทำผลงานได้ดี อาจทำให้สโมสรไม่จำเป็นต้องทุ่มเงินมหาศาลในการเสริมทัพ แต่หากฟอร์มของเขายังไม่กลับมาเต็มที่ อาร์เซน่อลอาจต้องคิดอย่างจริงจังเกี่ยวกับการหาตัวเลือกใหม่ในแดนหน้า ซึ่งเป็นประเด็นที่สื่ออังกฤษติดตามอย่างใกล้ชิด และมีการประเมินแนวโน้มผ่านกระแสวิเคราะห์ในแพลตฟอร์มอย่าง สนใจเริ่มต้นเดิมพันออนไลน์กับเว็บตรง สมัคร UFABET วันนี้ รับสิทธิพิเศษมากมาย ทั้งโบนัสแรกเข้าและระบบฝากถอนออโต้ รวดเร็ว ปลอดภัย 100% ว่าความเป็นไปได้ของดีลกองหน้าคนใหม่จะเพิ่มหรือจะลดลงตามฟอร์มและสภาพร่างกายของเชซุสในช่วงต่อไป

แม้เชซุสจะกลับมาซ้อมได้แล้ว แต่สโมสรก็ยังคงระมัดระวังอย่างมาก เพราะประสบการณ์ในอดีตสอนให้รู้ว่าการรีบใช้งานผู้เล่นที่เพิ่งหายเจ็บอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บซ้ำได้ง่าย ซึ่งเป็นสิ่งที่อาร์เซน่อลไม่ต้องการเด็ดขาด โดยเฉพาะเมื่อฤดูกาลกำลังเข้าสู่ช่วงที่มีโปรแกรมถี่ ทั้งพรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ รวมถึงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งต้องการผู้เล่นคุณภาพสูงในหลายตำแหน่ง เพราะการหมุนเวียนนักเตะจะเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ทีมรักษาความสดและความต่อเนื่องในการเล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ การส่งเชซุสลงสนามในเวลาที่เหมาะสมจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง และนี่คือเหตุผลที่ทีมแพทย์ของสโมสรจะไม่เร่งรีบจนเกินไป แม้แฟนบอลจะอยากเห็นเขากลับมาลงสนามโดยเร็วที่สุดก็ตาม

เชซุสเองก็แสดงท่าทีมีความมุ่งมั่นอย่างมาก เขาให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ว่าคิดถึงการลงสนามทุกวินาที และพร้อมทำทุกอย่างเพื่อกลับมาช่วยทีมให้เร็วที่สุด โดยเขายอมรับว่าการนั่งดูเพื่อนร่วมทีมแข่งขันจากข้างสนามคือสิ่งที่เจ็บปวดที่สุดสำหรับนักฟุตบอลอาชีพ และความรู้สึกนี้ทำให้เขารักษาวินัยในการฟื้นฟูร่างกายอย่างเคร่งครัดกว่าที่เคย เพื่อไม่ให้เกิดอาการบาดเจ็บซ้ำอีก ซึ่งทัศนคติแบบนี้ทำให้แฟนบอลอาร์เซน่อลยิ่งรักและชื่นชมในความทุ่มเทของเขา เพราะตลอดเวลาที่อยู่กับสโมสร เขาแสดงให้เห็นเสมอว่าเล่นด้วยหัวใจและมีความกระหายในชัยชนะอยู่ตลอด

ด้านอาร์เตต้าเองก็รู้ดีว่าเชซุสมีความหมายต่อทีมมากแค่ไหน เขาเคยกล่าวไว้หลายครั้งว่าเชซุสไม่ใช่กองหน้าธรรมดา แต่เป็นผู้เล่นที่ขับเคลื่อนเกมรุกทั้งระบบด้วยสัญชาตญาณ การเคลื่อนที่ และแรงกระตุ้นในเชิงกลยุทธ์ที่หาคนทดแทนได้ยาก นอกจากนี้เขายังทำให้เพื่อนร่วมทีมเล่นง่ายขึ้น เพราะการเคลื่อนที่ของเขามักจะดึงกองหลังออกจากตำแหน่ง และเปิดช่องว่างให้ผู้เล่นคนอื่นเข้าทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นรูปแบบที่อาร์เตต้าออกแบบระบบไว้ตั้งแต่เริ่มโครงการพาทีมกลับมาลุ้นแชมป์อีกครั้ง

สื่อในอังกฤษเชื่อว่าอาร์เตต้าอาจใช้วิธีค่อย ๆ ส่งเชซุสลงสนามในช่วง 10-15 นาทีแรกของการกลับมา เพื่อให้เขาปรับจังหวะการแข่งขัน ก่อนจะเพิ่มเวลาลงเล่นทีละน้อยจนกลับไปยืนเป็นตัวจริงเต็มรูปแบบซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยลดโอกาสบาดเจ็บซ้ำได้ดีที่สุด และยังช่วยให้เขาฟื้นความมั่นใจทีละขั้นโดยไม่ต้องรับภาระหนักจนเกินไป โดยเฉพาะกรณีที่คู่แข่งในลีกอังกฤษมีความแข็งแกร่งมาก และการปะทะในแต่ละครั้งมีโอกาสเสี่ยงต่อการเจ็บเพิ่มขึ้นได้ง่าย

ในมุมมองของแฟนบอลต่างประเทศ หลายคนชื่นชมในความพยายามของเชซุส เพราะแม้เขาจะมีความมั่นใจและทักษะที่ยอดเยี่ยม แต่การเจออาการบาดเจ็บยาว ๆ หลายครั้งอาจทำให้ผู้เล่นหลายคนรู้สึกถอดใจได้ แต่เชซุสกลับแสดงให้เห็นว่าเขายังมีไฟในการพิสูจน์ตัวเองอยู่เต็มเปี่ยม อีกทั้งยังอยากสร้างผลงานเพื่อพาอาร์เซน่อลเข้าใกล้แชมป์พรีเมียร์ลีกมากที่สุด ซึ่งถือเป็นความท้าทายที่เขาตั้งใจมาอย่างยาวนานตั้งแต่วันที่ย้ายมาจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องมองในภาพรวมของทีมด้วย เพราะการกลับมาของเชซุสอาจสร้างแรงกระตุ้นให้ผู้เล่นตำแหน่งอื่น ๆ ยกระดับฟอร์มขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะผู้เล่นดาวรุ่งที่ต้องการแย่งตำแหน่งในทีมชุดใหญ่ เช่น เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ หรือหากนับรวมผู้เล่นริมเส้นอย่าง รีสส์ เนลสัน ก็อาจต้องเร่งฟอร์มเพื่อให้ตัวเองยังคงอยู่ในแผนงานของอาร์เตต้า ซึ่งการแข่งขันภายในทีมแบบนี้จะช่วยให้ระดับมาตรฐานของทีมสูงขึ้น และส่งผลต่อโอกาสลุ้นความสำเร็จในระยะยาว

สื่ออังกฤษหลายสำนักมองว่า หากเชซุสกลับมาสมบูรณ์ในช่วงปลายฤดูกาล อาร์เซน่อลจะมีหนึ่งในขุมกำลังเกมรุกที่น่ากลัวที่สุดในลีก เพราะนอกจากเชซุสแล้ว ทีมยังมีผู้เล่นคุณภาพระดับสูงที่สามารถสลับหมุนเวียนได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นทรอสซาร์, ฮาแวร์ตซ์, ซาก้า, มาร์ติเนลลี่ และโธมัส ปาร์เตย์ที่กำลังจะกลับมาช่วยแดนกลางในไม่ช้า ซึ่งทั้งหมดนี้จะทำให้รูปแบบการเล่นของอาร์เซน่อลลื่นไหลขึ้นและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในการลุ้นแชมป์แบบต่อเนื่อง โดยเฉพาะโปรแกรมที่ต้องเจอกับทีมใหญ่ที่อาจตัดสินอนาคตของฤดูกาลได้

ในตอนนี้สิ่งที่แฟนบอลทำได้คือรอคอยข่าวดีจากทีมแพทย์และอาร์เตต้า ว่าการฟื้นตัวของเชซุสจะเป็นไปตามแผนหรือไม่ เพราะหากเขากลับมาทันช่วงหัวใจของซีซั่น นั่นหมายถึงอาร์เซน่อลสามารถเพิ่มศักยภาพในการเล่นเกมรุกได้อีกหลายระดับ และอาจเป็นปัจจัยสำคัญในการทำคะแนนไล่บี้คู่แข่งแบบสูสี ซึ่งแฟนบอลจำนวนมากให้ความสนใจประเด็นนี้มากเป็นพิเศษ โดยการวิเคราะห์การแข่งขันรวมถึงกระแสเดิมพันในเชิงข้อมูลผ่านแพลตฟอร์มอย่าง เข้าถึงทุกการเดิมพันได้ง่ายผ่าน ทางเข้า UFABET ล่าสุด เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ รองรับมือถือทุกระบบ เข้าเล่นได้ตลอด 24 ชั่วโมงก็เพิ่มความน่าสนใจให้กับสถานการณ์นี้ เพราะมันช่วยสะท้อนมุมมองของตลาดว่าการกลับมาของเชซุสจะส่งผลอย่างไรต่อโอกาสการลุ้นแชมป์ของอาร์เซน่อลในปีนี้

ท้ายที่สุด การกลับมาซ้อมของ กาเบรียล เชซุส ไม่ได้หมายถึงแค่การที่อาร์เซน่อลได้หัวหอกตัวเก่งคืนมา แต่ยังส่งผลต่อความมั่นใจทั้งของนักเตะ เพื่อนร่วมทีม บอร์ดบริหาร และแฟนบอลทั่วโลก นี่คือสัญญาณของความหวังใหม่ในช่วงที่ทีมต้องการพลังบวกอย่างยิ่ง และหากเขากลับมาลงสนามได้แบบเต็มประสิทธิภาพ นี่อาจเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่เปลี่ยนเส้นทางของฤดูกาลได้จริง ไม่ว่าจะเป็นการแย่งแชมป์พรีเมียร์ลีก การลุ้นเข้ารอบลึกในแชมเปี้ยนส์ ลีก หรือแม้กระทั่งการสร้างทีมระยะยาวในแบบที่อาร์เตต้าทำมาอย่างต่อเนื่อง โดยแฟนบอลต่างตั้งตารอว่านักเตะหมายเลข 9 ของทีมจะกลับมาสร้างปรากฏการณ์อีกครั้งในไม่ช้านี้อย่างแน่นอน